หน้าหลัก > บล็อก > Home Security ตอน เลือก IP Camera แบบไหนที่เหมาะสมกับคุณ

Home Security ตอน เลือก IP Camera แบบไหนที่เหมาะสมกับคุณ

โดย thanaporn.nuchphadung

เลือกซื้อกล้องวงจรปิด IP Camera คุณจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลอะไรบ้าง

ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบ้านของคุณที่จะช่วยดูแลบุคคลภายในบ้าน และกล้องวงจรปิด (Security Camera) แบบไหนล่ะ ที่เหมาะสมสำหรับคุณ

 

กล้องวงจรปิด (Security Camera) ในปัจจุบัน มี 2 ประเภท คือ

  1. กล้องวงจรปิดแบบ Analog : กล้องประเภทนี้จะต้องใช้งานผ่านการเดินสาย ซึ่งถือว่าเป็นระบบคุณภาพจากวิดิโอที่ได้มีจำกัด
  2. กล้องวงจรปิดแบบ IP Camera : กล้องประเภทนี้เป็นระบบใหม่ จะมีให้เลือกทั้งใช้งานแบบ WiFi หรือใช้งานผ่านสาย LAN ซึ่งถ้าหากกล้องรองรับระบบ PoE ก็จะไม่ต้องเดินสายไฟแยก สามารถเดินสายเส้นเดียวได้เลย

 

โดยในบทความนี้เราจะพูดถึงกล้องวงจรปิดแบบ IP Camera ว่าก่อนที่จะเลือกซื้อกล้องวงจรปิด IP Camera คุณจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลอะไรบ้าง

 

ต้องการใช้งานกล้องวงจรปิดแบบมีสายหรือกล้องวงจรปิดไร้สาย

ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบ้านของคุณ ที่ช่วยดูแลบุคคลภายในบ้านหรือสัตว์เลี้ยงได้อย่างทั่วถึง คุณจำเป็นต้องตรวจสอบพื้นที่ของคุณว่าจำเป็นต้องใช้งานกล้องวงรปิดแบบมีสายหรือกล้องวงจรปิดไร้สาย โดยแตกต่างกัน ดังนี้

  • IP Camera แบบมีสาย จะเชื่อมต่อสายเคเบิ้ล/LAN โดยตรงและส่งข้อมูลไปยังเครื่องบันทึก IP Camera ประเภทนี้จำเป็นต้องเดินสาย LAN และสายไฟจึงจะสามารถใช้งานได้

    ข้อเสียคือกล้องวงจรปิด (Security Camera) ประเภทนี้คือจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งกล้องวงจรปิด แต่มีข้อดีต้องที่บันทึกลงบนเครื่องบันทึก ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไปสูญหาย
     
  • IP Camera แบบไร้สาย (กล้องวงจรปิดไร้สาย) จะใช้งานผ่าน WiFi และบันทึกข้อมูลลงบนการ์ด Micro SD card หรือบางรุ่นอาจจะสามารุส่องข้อมูลไปยังคลาวด์แบบออนไลน์ ถึงแม้ว่าจะชื่อว่ากล้องไร้สาย แต่กล้องวงจรปิด (Security Camera) ประเภทนี้จำเป็นต้องเสียบสายไฟ AC ให้พลังงานอยู่ ข้อดีของกล้องประเภทนี้คือมีความยืดหยุ่นในการติดตั้งกล้องวงจรปิด แต่มีข้อเสียตรงที่เนื่องจากเป็นสัญญาณ WiFi อาจมีการกวนสัญญาณกันบ้าง

 

พื้นที่ที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด (Security Camera)

พื้นที่เป็นสิ่งสำคัญมากที่คุณจำเป็นต้องตรวจสอบว่าต้องการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านหรือภายนอกอาคาร คุณสามารถใช้งานกล้องวงจรปิดภายนอกอาคารในบ้านได้ แต่เราไม่แนะนำให้ติดกล้องสำหรับในบ้านที่นอกบ้าน

อย่างไรก็ตาม กล้อง IP Camera นอกบ้าน จะเป็นกล้องวงจรปิดกันน้ำ กันแดด กันฝน ตามมาตรฐาน IP66 หรือ IP67 ตรงข้ามกับ IP Camera ภายในบ้านที่จะไม่มีฟีเจอร์นี้

 

มาตรฐาน IP66 หรือ IP67 คืออะไร

  • IP66 หรือ IP67 คือมาตรฐานที่บ่งบอกว่าอุปกรณ์นั้นๆ มีประสิทธิภาพในการกันน้ำ กันฝุ่น หรือการป้องกันของเหลวมากแค่ไหน
  • IP66 คือสามารถป้องกันฝุ่นขนาดเล็ก และป้องกันหยดน้ำฝนที่มีขนาดใหญ่หรือฝนที่ตกมาก
  • IP67 คือสามารถป้องกันฝุ่นขนาดเล็ก ป้องกันหยดน้ำฝนที่มีขนาดใหญ่หรือฝนที่ตกมาก และมีความสามารถในการแช่ตัวน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร เป็นระยะเวลา 30 นาที

 

ขนาดพื้นที่ที่ต้องการให้ครอบคลุมการมองเห็น

คุณต้องการการมองเห็นที่ครอบคลุมหรือไม่ หรือแค่ต้องการการมองเห็นเป็นเฉพาะจุด

กล้อง IP Camera มีให้เลือกทั้งสองประเภท หากพื้นที่ที่ติดตั้งกล้องต้องการการมองเห็นที่ครอบคลุม เราแนะนำให้คุณเลือกกล้องที่มีฟังก์ชั่น หมุนได้ อย่างเช่น รุ่น Tapo C210 กล้องวงจรปิดไร้สาย (Pan/Tilt Home Security WiFi Camera) หรือ Tapo C200 กล้องวงจรปิดไร้สาย (Pan/Tilt Home Security WiFi Camera)

กล้องวงจรปิดประเภทนี้เป็นกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ เป็นกล้องวงจรปิดหมุนได้ คุณสามารถเลือกปรับหมุนซ้าย-ขวา หรือก้ม-เงย ผ่านคำสั่งได้เลยผ่านแอพลิเคชั่น

แต่ถ้าหากพื้นที่ของคุณต้องการการมองเห็นเป็นเฉพาะจุด เช่น หน้าแคชเชียร์ เท่านั้น เราแนะนำให้คุณเลือกกล้องรุ่น Tapo C100 ที่เป็นกล้อง IP Camera เลนส์ฟิก ขนาดเล็กก็เหมาะสมและเพียงพอแล้ว

 

ความคมชัดที่เท่าไหร่ที่ต้องการ

ขนาดพื้นที่คุณต้องการตรวจสอบเป็นตัวกำหนดความละเอียดที่คุณต้องการ ระดับความซูมขนาดไหนที่คุณต้องการ เช่น หากคุณติดตั้งกล้องวงจรปิดบนแคชเชียร์เพื่อตรวจสอบจำนวนแบงค์ จำเป็นต้องใช้กล้องที่มีความคมชัดตั้งแต่ 2 ล้านพิกเซลขึ้นไป

แต่หากพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อดูภาพรวม ก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้กล้องความละเอียดมากมาย

ทั้งนั้น เราแนะนำว่า การใช้กล้องวงจรปิด (Security Camehttps://www.tp-link.com/th/home-networking/cloud-camera/ra) ความละเอียดตั้งแต่ 2 ล้านพิกเซลขึ้นไปถึงจะดีที่สุด เผื่อในกรณีที่ต้องการซูม คุณภาพของภาพจะไม่ได้ลดลงมากนัก

 

สภาพแวดล้อมที่ติดตั้งเป็นอย่างไร

เนื่องจากสภาพแสงในแต่ละที่แตกต่างกันตลอดทั้งวัน พื้นที่ภายในและภายนอกอาคารก็แตกต่างกัน เนื่องด้วยเวลาและฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง IP Camera บางประเภทจะมีฟีเจอร์ Smart IR จะช่วยป้องกันวัตถุไม่ให้แสดงผลน้อยเกินไปเมื่ออยู่ไกลหรือแสงมากเกินไปเมื่ออยู่ใกล้กล้องในเวลากลางคืน สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เบื้องต้น หากสถานที่ติดตั้งชุดกล้องวงจรปิดภายในบ้าน หรือในที่ร่ม ที่ใช้ไฟ LED สภาพแวดล้อมอาจไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้งานฟีเจอร์นี้ก็เป็นได้

 

เสียงสำคัญหรือไม่

IP Camera จะรองรับการใช้งานคำสั่งเสียงแบบ Two-Way คือสามารถพูด-คุย ผ่านกล้องวงจรปิดได้ ทั้งต้นสายและปลายสาย ฟีเจอร์นี้จะพิเศษตรงที่ ในกรณีเช่นคุณดูภาพกล้องผ่านแอพลิเคชั่นและเห็นว่ากำลังมีเจ้าหน้าที่มาส่งพัสดุ ในขณะที่คุณกำลังยุ่งหรือไม่สะดวก แทนที่คุณจะต้องละจากกิจกรรมที่ทำอยู่แล้วเดินออกไปรับ ก็เปิดและพูดภาพกล้องได้เลย

 

การเพิ่มจำนวนกล้องวงจรปิด (Security Camera) ในอนาคต

คุณจำเป็นต้องคำนึงถึงการขยับขยายในอนาคต จะทำอย่างไรหากพื้นที่ที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดต้องการมุมมองที่เพิ่มขึ้นหรือมีการขยับขยาย IP Camera รุ่น Tapo สามารถใช้งานได้ผ่านแอพเดียวกัน แม้จะคนละรุ่น อีกทั้งยังติดตั้งง่ายและสะดวกเพียงแค่เชื่อมต่อผ่าน WiFi เท่านั้น

แต่หากพื้นที่ของคุณสามารถเดินสายได้ และต้องการใช้กล้อง IP Camera แบบมีสายรุ่น VIGI อาจจะต้องคำนึงเรื่องการเพิ่มชุดกล้องวงจรปิด เนื่องจากตัวกล้อง IP Camera รุ่น VIGI จะต้องแอดผ่านเครื่องบันทึก NVR เท่านั้น

 

ฟีเจอร์สำคัญที่ต้องการ

กล้อง IP Camera จะฟีเจอร์สำคัญๆที่รองรับการใช้งานอย่างเช่น Motion Detection ที่ช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหว , การใช้งานผ่านคำสั่งเสียง Two-Way Audio , การตั้งเวลาบันทึกภาพ หรือแม้แต่การแชร์อุปกรณ์ให้คนในครอบครัว ซึ่งฟีเจอร์พวกนี้จะรองรับแตกต่างกันตามแต่ละแบรนด์ และรุ่น คุณจำเป็นต้องตรวจสอบรุ่นเพื่อดูฟีเจอร์ที่เหมาะสมอีกครั้ง (Tapo C210 , Tapo C200 , Tapo C310 , Tapo P100 , VIGI C300HP , VIGIC 400HP)

 

การติดตั้งกล้องวงจรปิด (Security Camera) และการใช้งานผ่านแอพลิเคชั่น

TP-Link มีกล้อง IP Camera 2 ประเภท คือกล้อง IP Camera แบบไร้สาย ใช้งานผ่าน WiFi ชื่อว่า Tapo และ กล้อง IP Camera แบบมีสาย ชื่อว่า VIGI สองประเภทนี้ใช้งานกันคนละแอพลิเคชั่น

TP-Link Tapo ใช้งานผ่านแอพลิเคชั่นที่เรียกว่า Tapo โดยแอพลิเคชั่นนี้ไม่ได้ใช้แค่เฉพาะกล้องวงจรปิดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์ IoT อุปกรณ์สมาร์ทโฮม เช่น หลอดไฟอัจฉริยะ Tapo L530E สมาร์ทปลั๊ก Tapo P100 หรืออุปกรณ์ Tapo IoT อื่น ๆ ในอนาคต

จุดเด่นของแอพ Tapo คือใช้งานง่าย ติดตั้งง่ายเพียงแค่เชื่อมต่อผ่าน WiFi ตามคอนเซ็ปท์ว่า เปลี่ยนบ้านของคุณให้เป็น Smart Home (Home Automation) ด้วยอุปกรณ์ Smart IoT

ในขณะที่อีกรุ่นคือ TP-Link VIGI กล้องวงจรปิดแบบมีสาย ใช้งานผ่านสายแลนร่วมกับเครื่องบันทึก NVR แต่อย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิด VIGI ก็สามารถใช้งานผ่านแอพลิเคชั่นที่เรียกว่า VIGI แต่สำหรับฟีเจอร์สำคัญๆ หรือการเพิ่มกล้องอาจจะยุ่งยากกว่า TP-Link Tapo เนื่องจากจะต้องตั้งตั้งผ่านเครื่องบันทึก NVR

thanaporn.nuchphadung

จาก United States?

Get products, events and services for your region.